วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หลวงพ่อเงินวัดบางคลานพิจิตร

ด้านหน้า


ด้านหลัง



พระผงรูปเหมือนข้างพัดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร เนื้อเก่ายุคต้นๆ
ราคาเบาๆ ครับ 

๙๙๙.๙๙๙ บาท

โทร 0872250463 ต้น

พระนาคปรกกรุนาดูนยุคทวารวดี





พระกรุนาดูน นาคปรก พิมพ์เล็กนิยม ยุคทวารวดี


ด้านหน้า

ด้านหลัง


ราคาเบาๆ ครับ

89.000 บาท

โทร 0872250463 ต้น

วัดระฆังสมเด็จวัดระฆัง 100 ปี

ด้านหน้า

ด้านหน้าตรงวงกลมสีดำมีรูป ระฆัง


ด้านหลัง

ด้านหลังตรงวงกลมสีดำมี รอยร้าว


ราคาเบา ๆ ครับ

๙๙๙.๙๙๙ บาท

โทร 0872250463 ต้น


ผู้มีวาสนาได้ไปแล้วครับ ราคา  2.000  บาท

วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การละกิเลส

การละกิเลสคือ โลภะ โทสะ โมหะ เสียได้ จิตจะสงบสุข


จิตที่ยังต้องเวียนว้ายตายเกิดอยู่ ก็เพราะยังมีกิเลสคือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นสาเหตุ จึงต้องฝึกจิตของตนให้รู้ละเสีย หรือทำให้เบาบางลงไปเลื่อยๆ จนค่อยๆหมดไป จึงจะพ้นจากการเวียนว้ายตายเกิดเสียได้ อะไรเป็นเหตุให้เกิดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง อารมณ์หรือความรู้สึกยินดียินร้าย ที่เกิดจากการรับรู้ใน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธัมมารมณ์ คือสาเหตุให้เกิดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความรู้สึกยินดียินร้ายก็คืออกุศลจิต หรืออกุศลมูล ที่เป็นมูลเหตุเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในชีวิตประจำวันของเรา ถูกเก็บเอาไว้ในจิตใต้สำนึกที่เรียกว่าอนุสัยกิเลสหรือตะกอนนอนเนื่องในจิต ของชีวิตประจำวันของเรา จึงควรฝึกจิตของตนให้รู้ละเสียทีละเล็กทีละน้อยในชีวิตประจำวันของตนเสมอๆ

การจะฝึกจิตของตนเอง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นที่จะทำไม่ได้ เพียงท่องธัมมะภาวนาไว้ในชีวิตประจำวันของตนว่า “ไม่ยินดียินร้าย...ไม่ว่าร้ายใคร...ไม่คิดร้ายใคร...” การท่องธัมมะภาวนาไว้เสมอตลอดเวลา(เป็นโอปะนะยิโก) ก็คือการปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดความรู้ตัวให้กับจิต หรือมีอินทรีย์สังวรรู้ระวังจิตของตน จะทำให้มีสติรู้สกัดกั้นไม่ให้จิตเกิดอกุศล หรือมีสติในการรู้ปล่อยวางในอารมณ์ยินดียินร้าย เมื่อจิตมีสติไม่ให้เกิดอกุศล จิตนี้ก็เป็นกุศลมีผลทำให้จิตเกิดความสงบสุข และค่อยๆเกิดความนิ่งจนเป็นสมาธิ การมีสมาธิก็ไม่ใช่มีในการนั่งสมาธิอย่างเดียว มีได้ในอิริยาบถทั้ง ๔ คือ มียืน เดิน นั่ง นอน ล้วนเป็นสมาธิได้ทั้งนั้น(เป็นอกาลิโก) อาการของสมาธิก็คือจิตมีความสงบนิ่ง ไม่ส่งออกไปจับสิ่งรับรู้รอบตัวที่มากระทบเอามานึกคิดปรุงแต่ง จิตที่สงบนิ่งไม่นึกคิดปรุงแต่งนี่แหละคือสมาธิ ในระยะแรกจะเป็นขณิกสมาธิคือสมาธิที่เป็นขณะ ๆ เราจะเห็นอาการจิตนี้ได้ด้วยตัวของเราเอง มีความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เสมอในจิตของตน นี่แหละคือผลของการฝึกจิตให้ละกิเลสคือ โลภะ โทสะ โมหะ จิตจะมีความสะอาด สว่าง สงบนิ่งเป็นสมาธิ มีความสงบสุข มีสุขชาตินี้ และสุขชาติหน้าด้วย และยังจะทำให้เกิดอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ที่เป็นแนวทางนำไปสู่ความหลุดพ้นจากกองทุกข์คือพระนิพพานด้วย ดังนี้.

โดยหลวงพ่ออุดม มหาปุญโญ วัดป่าหนองเลง




วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

พระผงสุพรรณ 20 ก.ค 45






พระผงสุพรรณ เหรียญขวัญถุงครับ

ขาย 1.500  บาท

โทร 0872250463 ชื่อต้นครับ


หลวงปู่คำแสน เหรียญกระดุมเล็ก

หลวงปู่คำแสน เหรียญกระดุมเล็ก รุ่น2 ปี 2520








 เหรียญ หลวงปู่คำแสนฯ รุ่นนี้คณะศิษย์อำเภอตาคลี จ.นครสวรรค์ สร้างถวายในวาระที่หลวงปู่คำแสนมีอายุครบ 7 รอบอายุ 84 ปี เป็นเหรียญที่เหมาะสำหรับเด็ก-สตรี เพราะมีขนาดเล็ก. เหรียญที่ได้รับความนิยม ไม่ค่อยพบเห็นครับ










ราคา 1.200 บาท โทร 087-2250463 ต้นครับ

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทุกข์เกิดมาจากไหน

ทุกข์เกิดมาจากไหน - ปฏิจจสมุปบาท


"อวิชชา" สภาพที่ปราศจากความรู้ ทำให้เกิด...

"สังขาร" คือ อำนาจปรุงแต่ง ให้สิ่งนั้นหยุดอยู่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนแปลงไป สังขารเป็นเหตุให้เกิด...

"วิญญาณ" คือ จิตชนิดที่จะทำหน้าที่ของจิต จิตที่อยู่เฉย ๆ เป็นภวังคจิต มันไม่ทำหน้าที่อะไรได้ มันถูกสังขารปรุงให้เป็นวิญญาณ ซึ่งคือจิตชนิดหนึ่งที่จะทำหน้าที่รับอารมณ์ได้ เฉพาะเรื่อง เฉพาะขณะหนึ่งเท่านั้น วิญญาณนี้ก็ทำให้เกิด

"นามรูป" - คือ กายกับใจ ที่มันยังไม่เป็นอะไร ยังไม่ทำหน้าที่อะไร เหมือนกับตายด้านอยู่ ให้ลุกขึ้นมาเป็นกายกับใจที่ทำหน้าที่ได้ชั่วขณะ ชั่วเรื่อง ชั่วตาเห็นรูป ชั่วหูฟังเสียง ฯลฯ ชั่วขณะอย่างนั้นเท่านั้น...

นามรูปที่เป็น active นั้น มันเกิดขึ้น (ส่วน)นอกจากนั้นมันเป็น dormant ที่หลับอยู่ เป็นกายกับใจที่ไม่ทำหน้าที่ วิญญาณนี้มันทำให้กายกับใจที่หลับอยู่เกิดเป็น active ขึ้นมา คือ ทำหน้าที่

กายกับใจหรือนามรูปอันนี้ มันก็ทำให้ "อวัยวะ 6" คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่หลับอยู่นี่ ลุกขึ้นมาทำหน้าที่รับอารมณ์ รับอะไรทางตา ทางหู ทางจมูก ฯลฯ

ทีนี้การที่ว่าอวัยวะข้างในนี้ มันพบกันเข้ากับสิ่งข้างนอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส ฯลฯ เขาเรียกว่าการกระทบ หรือว่า "ผัสสะ" มันเกิดขึ้น กระทบผัสสะอย่างนี้แล้ว ก็มี "เวทนา" เกิดขึ้น ถูกใจหรือไม่ถูกใจ

เวทนาเกิดขึ้นแล้ว มันก็ทำให้เกิด "ตัณหา" คือ ความต้องการด้วยความโง่...ถูกใจก็อยากยึดครอง ไม่ถูกใจก็อยากจะทำลาย...

เมื่อตัณหาเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องสงสัย ทีนี้ก็ยึดมั่น ในสิ่งที่มันอยาก มันต้องการ นี้เรียกว่า "อุปาทาน"

พฤติของจิตมี concept มาถึงอุปาทานอย่างนี้แล้ว ก็เรียกว่าพร้อม มีความพร้อมที่จะ "เป็นอยู่" หรือเป็นชีวิตอันหนึ่งในขณะนั้น เขาเรียกว่า "ภพ"....ภพนี้เรียกเป็นภาษาที่จะเขาใจสำหรับพวกคุณ คือคำว่า existance คือ ความมีอยู่ เป็นอยู่...

หลังจากภพก็มี "ชาติ" คือ ความเกิด นี่เป็นความรู้สึกที่เป็นตัวฉัน หรือตัวเรา ตัวอะไรเต็มที่....นี่คือชาติที่คน(ส่วนมาก)ยังไม่รู้จัก ก็คือ ชาติตอนนี้ ไม่ใช่ชาติที่เกิดจากท้องแม่ เป็นชาติที่เกิดจากอวิชชาประจำวัน

พอมีชาติอย่างนี้แล้ว ก็มีชรา มรณะ โสะ ปริเทวะ หรือว่าความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ที่นอนหลับอยู่เฉย ๆ ไม่รู้อยู่ที่ไหน จะมาเป็นปัญหาขึ้นในใจทันที เป็นความทุกข์ เป็นความกลัว ....

นี่เรียกว่า ความทุกข์มาจากตัณหา อุปาทาน ภพ และชาติ อย่างนี้ พอถึงความทุกข์ ก็เรียกว่ารอบหนึ่งแล้ว

ทีนี้ความทุกข์เกิดแล้ว ไม่ใช่อวิชชามันหมด อวิชชามันยังอยู่ คือ มันยังมีความเคยชินที่จะเกิดอยู่นั่นแหละ เดี๋ยว ทีนี้มันไปกระทบทางตา ทางหู ทางจมูก ทางไหนเข้าอีก มันก็ทำงานอย่างนี้อีก เป็นวง ๆ ไปอย่างนี้ นี่คือ ปฏิจจสมุปบาท ที่เรียกแล้วฟังยาก แล้วไม่มีใครสนใจ ที่แท้ก็คือ motion อาการของสิ่งประหลาดลึกลับอันหนึ่ง ที่หมุนอยู่ในตัวคนนี้ แล้วทำให้เกิดความรู้สึกที่เป็นทุกข์

พุทธทาสภิกขุ

ย่อจากธรรมเทศนา เรื่อง วงล้อของชีวิตในชีวิตประจำวัน
9 เมษายน 2514
บรรยายอบรมภิกษุนิสิตมหาวิทยาลัยมหิดล

หลวงพ่อเงินวัดบางคลานพิจิตร

ด้านหน้า ด้านหลัง พระผงรูปเหมือนข้างพัดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร เนื้อเก่ายุคต้นๆ ราคาเบาๆ ครับ  ๙๙๙.๙๙๙ บาท โทร 08722...