วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การละกิเลส

การละกิเลสคือ โลภะ โทสะ โมหะ เสียได้ จิตจะสงบสุข


จิตที่ยังต้องเวียนว้ายตายเกิดอยู่ ก็เพราะยังมีกิเลสคือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นสาเหตุ จึงต้องฝึกจิตของตนให้รู้ละเสีย หรือทำให้เบาบางลงไปเลื่อยๆ จนค่อยๆหมดไป จึงจะพ้นจากการเวียนว้ายตายเกิดเสียได้ อะไรเป็นเหตุให้เกิดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง อารมณ์หรือความรู้สึกยินดียินร้าย ที่เกิดจากการรับรู้ใน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธัมมารมณ์ คือสาเหตุให้เกิดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความรู้สึกยินดียินร้ายก็คืออกุศลจิต หรืออกุศลมูล ที่เป็นมูลเหตุเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในชีวิตประจำวันของเรา ถูกเก็บเอาไว้ในจิตใต้สำนึกที่เรียกว่าอนุสัยกิเลสหรือตะกอนนอนเนื่องในจิต ของชีวิตประจำวันของเรา จึงควรฝึกจิตของตนให้รู้ละเสียทีละเล็กทีละน้อยในชีวิตประจำวันของตน

การจะฝึกจิตของตนเอง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นที่จะทำไม่ได้ เพียงท่องธัมมะภาวนาไว้ในชีวิตประจำวันของตนว่า “อย่ายินดียินร้าย...อย่าว่าร้ายใคร...อย่าคิดร้ายใคร...” การท่องธัมมะภาวนาไว้เสมอตลอดเวลา ก็คือการปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เกิดสติรู้สกัดกั้นไม่ให้จิตเกิดอกุศล หรือมีสติในการรู้ปล่อยวางในอารมณ์ยินดียินร้าย เมื่อจิตมีสติไม่ให้เกิดอกุศล จิตนี้ก็เป็นกุศลมีผลทำให้จิตเกิดความสงบสุข และค่อยๆเกิดความนิ่งจนเป็นสมาธิ การมีสมาธิก็ไม่ใช่มีในการนั่งสมาธิอย่างเดียว มีได้ในอิริยาบถทั้ง ๔ คือ มียืน เดิน นั่ง นอน ล้วนเป็นสมาธิได้ทั้งนั้น อาการของสมาธิก็คือจิตมีความนิ่ง ไม่ส่งออกไปจับสิ่งรับรู้รอบตัวที่มากระทบเอามานึกคิดปรุงแต่ง จิตที่นิ่งไม่นึกคิดปรุงแต่งนี่แหละคือสมาธิ ในระยะแรกจะเป็นขณิกสมาธิคือสมาธิที่เป็นขณะไ เราจะเห็นอาการจิตนี้ได้ด้วยตัวของเราเอง มีความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่เสมอในจิตของตน นี่แหละคือผลของการฝึกจิตให้ละกิเลสคือ โลภะ โทสะ โมหะ จิตจะมีความนิ่งเป็นสมาธิ มีความสงบสุข และยังจะทำให้เกิดอธิศีล อธิจิต อธิปัญญาด้วย ดังนี้.

โดยหลวงพ่ออุดม มหาปุญโญ วัดป่าหนองเลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หลวงพ่อเงินวัดบางคลานพิจิตร

ด้านหน้า ด้านหลัง พระผงรูปเหมือนข้างพัดหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร เนื้อเก่ายุคต้นๆ ราคาเบาๆ ครับ  ๙๙๙.๙๙๙ บาท โทร 08722...