โลกในใจร้อนเพราะมี ไฟโลภะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ ในใจจะเย็นเพราะมีธัมมะภาวนา
ทุกวันนี้โลกภายนอกของเราดูจะร้อนขึ้นทุกวันๆ เพราะอากาศมีการเปลี่ยนแปรงไปตามฤดูกาล แต่ที่ร้อนขึ้นทุกวันก็เพราะมีการทำลายธรรมชาติมากขึ้นๆ จึงทำให้โลกร้อนขึ้นๆไปตามกฎเกณฑ์ ถ้ามีการหยุดทำลายธรรมชาติโลกก็จะเย็นลงไปเหมือนกับใจของคนเราทุกวันนี้มีแต่ความร้อนเพิ่มขึ้นๆ ก็เพราะใจของคนเรามีไฟอยู่ ๓ กอง คือไฟโลภะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ คุกลุ่นอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่คนก็ชอบที่จะเพิ่มความร้อนเข้าไปในใจของตนอยู่เสมอๆโดยไม่รู้ตัว อะไรเป็นเหตุให้ใจของคนร้อนมากขึ้น อกุศลจิต ที่เกิดจากการรับรู้สิ่งต่างๆรอบตัวได้แต่ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย และใจที่ชอบนึกคิดไปตามกิเลสกาม ด้วยความรู้สึกยินดียินร้ายบ้าง, พอใจไม่พอใจบ้าง ,ชอบใจไม่ชอบใจบ้าง, นี้คือลักษณะของอกุศลจิต ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอในชีวิตประจำวันของคนเรา ถ้าไม่รู้จักดับกิเลสกาม และอกุศลจิต ในใจของตน ก็จะทำให้เกิดความทุกข์ตามมาให้ผลอย่างแน่นอน
ถ้าไม่อยากให้เกิดทุกข์ในใจ ก็อย่าให้เกิดอกุศลจิต คือกิเลสกาม คือไฟโลภะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ การจะดับสิ่งเหล่านี้ได้ ก็จะต้องอาศัยการเจริญภาวนา ด้วยบทธัมมะภาวนาว่า “ อย่ายินดียินร้าย...อย่าว่าร้ายใคร...อย่าคิดร้ายใคร...” ท่องเอาไว้ในใจของตนอยู่เสมอๆ ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะทำอะไรอยู่พยายามนึกท่องเอาไว้ เพื่อให้ใจของตนมีความรู้ตัวไว้ ก็จะทำให้เกิดสติ รู้สกัดกั้นอกุศลจิตไม่ให้เกิดขึ้น ใจของเราก็จะค่อยๆเย็นลงๆ สงบสุขมากขึ้นๆ เพราะกิเลสกาม หรือโลภะ โทสะ โมหะ เบาบางลงไป แม้โลกจะร้อนแต่ใจของเราก็ไม่ร้อนไปตามโลก เพราะใจของเรามีความเป็นกุศลจิต กุศลธรรม มีความเย็นสงบสุข ดังนี้.
โดยหลวงพ่อ อุดม มหาปุญโญ วัดป่าหนองเลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น